NFT งานศิลปะบนโลกคริปโตที่มาแรงสุดในซีซั่นนี้ อยากสร้างคอลเล็กชั่น NFT ของตัวเองไว้ขาย หรืออยากเป็นนักสะสม นักลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะไปซื้อผลงานที่ตลาดไหนดี เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลตลาดซื้อขาย NFT แบบ Secondary Market มาให้เพื่อนๆ ได้ทำความรู้จัก และเลือกใช้กันได้ตามสไตล์ของแต่ละคน จะมีอะไร แบบไหนกันบ้างนั้น ตามไปดูกันเลยที่นี่
ซื้อเหรียญคริปโตกับกระดานไบแนนซ์ คลิก
20 NFT Marketplace ตลาดซื้อขาย ยอดนิยม
NFT Marketplace คือ ตลาดสำหรับการซื้อ-ขาย NFT ที่ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเป็นได้ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้สร้าง NFT ซึ่งแต่ละที่นั้นก็มีการตอบสนองกับผู้ใช้งานที่แตกต่างกันไป เราสามารถดูข้อมูลแล้วเลือกใช้ตามที่ชอบกันได้เลยค่ะ
Niftygateway
ที่ NiftyGateway เป็นตลาดซื้อขาย NFT ชั้นนำที่น่าสนใจมากๆ แพลตฟอร์มนี้มุ่งเน้นไปที่การลงผลงาน NFT แบบ “พรีเมียม” เท่านั้น ซึ่งต้องเป็น NFT รุ่นที่มีจำนวนจำกัด แพลตฟอร์มนี้มีศิลปินและครีเอทีฟชื่อดังมากมาย เช่น Steve Aoki และ Grimes เนื่องจาก NFT เหล่านี้เป็นที่ต้องการอย่างสูง การคัดสรรชิ้นงานของ Nifty Gateway จึงเหมาะมากสำหรับนักลงทุนระดับไฮเอนด์ นอกจากนี้แล้ว NiftyGateway ยังเป็นส่วนหนึ่งของ Gemini กระดานเทรดชื่อดังในอเมริกาด้วย ที่ NiftyGateway เก็บค่าธรรมเนียม 5% สำหรับผู้ขายผลงาน NFT แต่ละครั้ง และมีค่าทำธุรรมกรรม 0.3 ดอลล่าร์สหรัฐ
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum
- ค่า Gas Fee : ใช้ตอนโอนย้าย NFT มาที่ niftygateway
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 5% สำหรับผู้ขายในแต่ละครั้ง , 0.3 ดอลล่าร์/ธุรกรรม
- ข้อดี : เป็นส่วนหนึ่งของ Gemini , สามารถซื้อด้วยเครดิตการ์ดได้
- ข้อเสีย : เป็นตลาดเฉพาะทาง การเข้าร่วมต้องได้รับคำเชิญ (Invitation) ก่อน
- ปริมาณการเทรด : มากกว่า 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
Opensea
ตลาด Opensea เป็นตลาดซื้อขาย NFT ที่ดังที่สุดและใหญ่สุด เป็นสถานที่ที่ทำให้ NFT กลายเป็นกระแสหลัก และถูกพูดถึงในวงกว้าง มีฐานผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านคน เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานบน Ethereum และมีการรองรับการซื้อขาย NFT หลากหลายรูปแบบ เช่น ผลงานศิลปะ โดเมนเนม ไอเทมในเกม ภาพถ่าย และอีกมากมาย เราสามารถซื้อขายได้ด้วยเหรียญ ETH , Polygon และ Solana ที่นี่มีงานคอลเล็กชั่นดังๆ ให้ซื้อขายหลายอัน
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum , Polygon , Solana
- ค่า Gas Fee : ใช้ตอนลงผลงาน และตอนชำระเงิน
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 2.5% สำหรับผู้ขายในแต่ละครั้ง
- ข้อดี : เป็นตลาดซื้อขาย NFT ที่ใหญ่ที่สุด เข้าถึงคนทั่วไปได้ง่ายที่สุด
- ข้อเสีย : ต้องใช้ Crypto Wallet เท่านั้น
- ปริมาณการเทรด : มากกว่า 4,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
เจอคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ อ่าน รวมคำศัพท์ NFT ควรน่าสนใจ ที่นี่
Rarible
Rarible ตลาดซื้อขาย NFT ที่น่าสนใจอีกตลาดที่เหมาะกับนักลงทุนเป็นอย่างมาก มีผลงาน NFT หลากหลายประเภท เช่น ผลงานดิจิทัลอาร์ท ภาพถ่าย เกม เพลง โดเมนเนม สิ่งของใน Metaverse สามารถใช้งานได้บน Ethereum , Flow ,Tezos และ Polygon
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum , Flow ,Tezos และ Polygon
- ค่า Gas Fee : ประมาณ 0.01 ETH เมื่อซื้อ NFT
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 2.5% สำหรับผู้ขายและผู้ซื้อในแต่ละครั้ง
- ข้อดี : ซื้อโดยใช้บัตรเครดิตได้ , ใช้งานได้กับ Crypto Wallet หลายตัว
- ข้อเสีย : ต้องเชื่อมต่อ Wallet เพื่อการเข้าถึงไอเทมที่มากขึ้น
- ปริมาณการเทรด : มากกว่า 390,000 ดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
ตลาดซื้อขาย NFT Foundation
Foundation แพลตฟอร์มสำหรับซื้อขาย NFT ที่เน้นผลงานอาร์ทแบบ Exclusive ใช้งานผ่าน Ethrereum Blockchain มีหน้าตาเว็บที่ใช้งานง่ายสุดๆ ที่นี่ยังเน้นไปที่การสนับสนุนคอมมูนิตี้ของเหล่าศิลปินและนักสะสมโดยเฉพาะ สำหรับศิลปินที่ชอบทำงานละเอียดๆ สวยๆ เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ ก็มาขายกันที่นี่ได้
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum
- ค่า Gas Fee : เมื่อซื้อ NFT
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 15% สำหรับผู้ขายในแต่ละการทำธุรกรรม
- ข้อดี : เน้นไปที่ผลงานอาร์ทชิ้นเยี่ยม
- ข้อเสีย : ต้องได้รับคำเชิญถึงจะเข้าร่วมได้ , ค่าแก๊สแพง
- ปริมาณการเทรด : มากกว่า 60,000 ดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
LooksRare
เว็บน้องใหม่ LooksRare เพิ่งเปิดตัวปี 2022 นี้เอง จัดเป็นแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT คู่แข่งคนสำคัญของ Opensea เลยก็ว่าได้ ด้วยปริมาณการเทรดที่ไม่น้อยหน้าใคร มีความแตกต่างจากตลาดอื่นๆ ตรงที่ตอบสนองความต้องการของผู้สร้างและนักสะสมงาน NFT ได้ดีกว่า และยังเป็นตลาดที่มีเหรียญ LOOKS ของตัวเองเอาไว้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นโปรโมชั่นในการ List งานบนแพลตฟอร์ม , การซื้อขายงาน และยังสามารถนำเหรียญที่ได้ไป Staking ต่อได้อีก
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum
- ค่า Gas Fee : เมื่อซื้อ NFT
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 2% สำหรับผู้ขายในแต่ละการทำธุรกรรม
- ข้อดี : ตลาดใหญ่ , โปรโมชั่นเยอะ , มีเหรียญ LOOKS ของตัวเอง , ค่าธรรมเนียมถูก
- ข้อเสีย : ผู้สร้างไม่สามารถ Mint งานโดยตรงกับแพลตฟอร์มได้
- ปริมาณการเทรด : 1,800 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
Superrare
ตลาดซื้อขายของ Superrare นั้นให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในอาร์ทแกลลอรี่ ที่เราสามารถเข้ามาชื่นชมผลงานศิลปะสวยๆ ได้ ที่นี่เป็นสถานที่ใน NFT แห่งแรกที่ให้คุณค่ากับผลงานศิลปะมากกว่าผลงานประเภทมีมล้อเลียน การตอบรับศิลปินที่สมัครเข้าร่วมนั้นก็มีเพียงแค่ 1% เท่านั้น ถ้าเพื่อนๆ ได้รับเลือกแปลว่าคุณคือศิลปินที่ทรงคุณค่าจริงๆ ด้วยวิธีการนี้จึงทำให้ที่ Superrare ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในแกลลอรี่ชั้นสูง ยิ่งไปกว่านั้น กฏในการ Mint งาน คือ ต้องเป็นงานต้นฉบับเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น จึงทำให้ผลงานนั้นๆ มีความหายากสุดๆ ตามคอนเซ็ปต์ของเว็บ
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum
- ค่า Gas Fee : เมื่อซื้อ NFT
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 3% สำหรับผู้ขายในแต่ละการทำธุรกรรม
- ข้อดี : เน้นไปที่ผลงานอาร์ทชิ้นเยี่ยม
- ข้อเสีย : ต้องได้รับคำเชิญถึงจะเข้าร่วมได้
- ปริมาณการเทรด : มากกว่า 24 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
Mintable
ตลาดซื้อขายงาน NFT Mintable เป็นตลาดที่มองข้ามไปไม่ได้เลย ที่ตลาดนี้ได้รับการสนับสนุนจากมหาเศรษฐีชื่อดัง Mark Cuban และมีความมุ่งมั่นที่จะให้ ผลงานอาร์ทเป็นที่รู้จักในวงกว้างและใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum, ImmutableX
- ค่า Gas Fee : เมื่อซื้อ NFT
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 5% สำหรับผู้ขายในแต่ละการทำธุรกรรม
- ข้อดี : ซื้อด้วยบัตรเครดิต , มีคลิปสอนการใช้งาน ดูได้ที่ Mintable University
- ข้อเสีย : ค่าธรรมเนียมแพงกว่าที่อื่น , ใช้งานได้เฉพาะ MetaMask
- ปริมาณการเทรด : 583,000 ดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
Knownorigin
ที่ KnownOrigin เป็นหนึ่งในตลาดซื้อขาย NFT ที่เก่าแก่ที่สุด คัดเลือกแต่งานอาร์ทแบบมาสเตอร์พีซเท่านั้น ในส่วนของศิลปินที่เข้าร่วมจะต้องได้รับการตรวจสอบและคัดเลือกมาเป็นอย่างดีแล้ว แม้ว่าปริมาณการซื้อขายจะไม่มาก แต่ก็มีแต่งานคุณภาพให้นักสะสมได้ซื้อเก็บกัน
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum
- ค่า Gas Fee : เมื่อซื้อ NFT
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 3% สำหรับผู้ขายในแต่ละการทำธุรกรรม
- ข้อดี : เน้นไปที่ผลงานอาร์ทชิ้นเยี่ยม ผลงานได้รับการตรวจสอบมาเป็นอย่างดี
- ข้อเสีย : ต้องได้รับคำเชิญถึงจะเข้าร่วมได้ , ค่าแก๊สแพง
- ปริมาณการเทรด : 8,000 ดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
NFT Coinbase
ตลาดซื้อขาย NFT Coinbase ที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ Coinbase ตลาดซื้อขายเหรียญคริปโตชื่อดังในอเมริกา สมาชิกของ Coinbase ก็สามารถเข้าซื้อผลงาน NFT ที่ชื่นชอบ หรือคิดว่าอยากจะเก็งกำไรได้เลยทันทีเหมือนกัน ข้อดีคือ ไม่ต้องทำการโอนเงินไปใส่วอลเล็ท หรือโอนไปที่อื่นๆ แต่สามารถใช้เงินของตัวเองที่อยู่ในกระดานทำการซื้อ NFT ได้เลย
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum
- ค่า Gas Fee : เมื่อซื้อ NFT
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : –
- ข้อดี : ใช้บัตรเครดิตได้ , สมาชิก Coinbase สามารถใช้งานได้ทันที , มีฐานผู้ใช้งานกว่า 3 ล้านคน
- ข้อเสีย : ให้ใช้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่อื่นต้องรอไปก่อน
- ปริมาณการเทรด : –
Binance NFT
ไบแนนซ์ เป็นกระดานเทรดเหรียญคริปโตที่มีคนใช้งานมากเป็นอันดับ 1 ของโลก เมื่อไบแนนซ์เปิดตลาดซื้อขาย Binance NFT เป็นของตัวเอง จึงทำให้มีคนใช้งานเป็นจำนวนมากแทบจะในทันที เพราะคนที่เป็นสมาชิกไบแนนซ์อยู่ก่อนแล้วก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อ ขาย NFT ได้เลย โดยใช้เหรียญ BNB , BUSD และเชนหลักที่ใช้จะเป็นของ Binance เองด้วย ถือว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจมากทีเดียว
สมัครไบแนนซ์ ซื้อเหรียญคริปโตเอาไว้สะสม NFT คลิก
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Binance Smart Chain , Ethereum
- ค่า Gas Fee : เมื่อซื้อ NFT
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 1% สำหรับผู้ขายและผู้ซื้อในแต่ละครั้ง
- ข้อดี : ค่าธรรมเนียมถูกมากๆ , ใช้งานโดยเหรียญ BNB , BUSD , ใช้บัตรเครดิตได้
- ข้อเสีย : สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ไบแนนซ์อาจงงได้ เพราะฟังก์ชั่นเยอะ , การ Mint มีข้อจำกัดมากกว่าที่อื่น
- ปริมาณการเทรด : มากกว่า 40 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
NFTLaunchpad
ที่ NFTLaunchpad เป็นตลาด NFT ที่ใช้งานผ่านกระเป๋า MetaMask ได้ง่ายๆ ทั้งการซื้อขาย และการประมูลงาน ส่วนการ Mint ผลงานนั้นก็ทำได้ง่ายสุดๆ ทาง NFT LaunchPad รองรับไฟล์รูปแบบต่างๆ มากมาย (รวมถึง MP4) ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่าค่าลิขสิทธิ์และตัดสินใจได้ว่าจะจัดแสดงคอลเลกชันที่หายากระดับไหน ยิ่งไปกว่านั้นผู้ใช้ยังสามารถสร้างเพจเฉพาะสำหรับผู้สนใจใน NFT ของคุณเพื่อให้แฟนคลับได้ติดตาม ที่ประกอบไปด้วยประวัติ รูปโปรไฟล์ รูปภาพปก และการทำลิงก์ไปยังเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของตัวเองได้อีกด้วย
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Binance Smart Chain (BSC) + Polygon
- ค่า Gas Fee : ไม่มี
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : ราคาไม่แพง
- ข้อดี : ออกแบบหน้าเพจโพรไฟล์ของตัวเองได้ , ขั้นตอนการมิ้นงานง่ายมาก
- ข้อเสีย : ข้อมูลซัพพอร์ทน้อยเกินไป
- ปริมาณการเทรด : –
Crypto.com NFT
กระดานเทรดคริปโตที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 10 ล้านคน ล่าสุดได้เปิดตลาดสำหรับซื้อขาย NFT ชื่อว่า Crypto.com NFT เอาไว้ด้วย สามารถใช้งานได้บนเชนของ Ethereum , Polygon และ crypto.org chain ซึ่งก็มีข้อดีตรงที่ว่า ลูกค้าของ Crypto.com สามารถซื้อ NFT ได้เลยโดยตรง และยังมีตัวจัดอันดับ Collection NFT วัดจากปริมาณซื้อขายต่างๆ ไว้ด้วย ทำให้ผู้ซื้อดูข้อมูลได้ชัดเจนขึ้น
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum , Polygon และ crypto.org chain
- ค่า Gas Fee : ไม่เสีย
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 1.99% สำหรับผู้ขายในแต่ละครั้ง
- ข้อดี : ซื้อโดยใช้บัตรเครดิตได้ , เข้าถึงง่าย , ใช้งานผ่านแอปบนมือถือได้
- ข้อเสีย : ต้องเชื่อมต่อกับ Crypto.com เมื่อใช้งาน , ข้อมูลการสร้าง NFT บนแพลตฟอร์มมีน้อยมาก เมื่อเทียบกับเจ้าอื่น
- ปริมาณการเทรด : มากกว่า 50,000 ETH/เดือน
Magic Eden
Magic Eden เป็นอีกหนึ่งตลาดที่เน้นการใช้งานบน Solana บล็อกเชน ที่นี่อนุญาติให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง และจัดการ NFT ได้บนบล็อกเชน NFT ในที่นี้ก็มีหลายประเภท เช่น ผลงานอาร์ทสำหรับสะสม ไอเทมเกม และอีกมากมาย ด้วยความที่เป็นแพลตฟอร์มแบบเปิดสาธารณธะ จึงทำให้มีผลงานลอกเลียนแบบผลงานดัง มาขายกันที่นี่เยอะ สำหรับมือใหม่อาจต้องทำการตรวจสอบให้ดีเสียก่อน
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Solana
- ค่า Gas Fee : ไม่มี
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 2% สำหรับผู้ขายในแต่ละการทำธุรกรรม
- ข้อดี : มีผู้ใช้งานเยอะ
- ข้อเสีย : ใช้งานได้เฉพาะ Solana เท่านั้น
- ปริมาณการเทรด : มากกว่า 200 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
Solanart
สำหรับคนที่เป็นแฟนคลับ Solana เรามั่นใจว่าเพื่อนๆ จะต้องชอบการใช้งานที่ Solanart อย่างแน่นอน เพราะที่ตลาดนี้จะเน้นการใช้งานผ่านเชนของ Solana ที่ขึ้นชื่อเรื่องการประมวลผลเร็วสุด ค่าธรรมเนียมก็ถูกมากๆ ด้วย แถมยังมีผลงานน่าสนใจหลายงาน เช่น SolPunks, Degenerate Ape Academy, Aurory, Abstratica, Thug Birdz ที่ซื้อไปเก็งราคาขายต่อได้ และซื้อไปสะสมได้ด้วย
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Solana
- ค่า Gas Fee : ไม่มี
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 3% สำหรับผู้ขายในแต่ละการทำธุรกรรม
- ข้อดี : ประมวลผลเร็ว ค่าธรรมเนียมถูก
- ข้อเสีย : ใช้งานได้เฉพาะ Solana เท่านั้น , มีการก็อปปี้แพลตฟอร์มอื่นๆ มาใช้ ไม่ค่อยแตกต่าง , โปรเจ็กท์ที่ขายส่วนใหญ่ยังเป็นรุ่นทดลอง
- ปริมาณการเทรด : มากกว่า 10 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
formfunction.xyz
ตลาด NFT แห่งใหม่ formfunction ที่ใช้งานบนแพลตฟอร์มของ Solana เน้นไปที่การสนับสนุนผลงานแบบ 1/1 เพื่อให้ศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานอันยอดเยี่ยมที่จะเป็นอนาคตของวงการ NFT ศิลปินที่จะเข้าไปขายงานที่นี่ต้องไปกรอกใบสมัครแล้วรอให้ทางบริษัททำการตรวจสอบคุณภาพให้เรียบร้อยก่อนจึงจะทำการขายได้
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Solana
- ค่า Gas Fee : ไม่มี
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 3% ต่อธุรกรรม
- ข้อดี : เป็นพื้นที่ใหม่ให้กับศิลปินคุณภาพ
- ข้อเสีย : ใช้งานได้เฉพาะ Solana เท่านั้น
- ปริมาณการเทรด : –
Paras.id
Paras เป็นตลาดซื้อขาย NFT มุ่งเน้นไปที่ผลงานสะสมรูปแบบดิจิทัลที่เป็นคอลเล็กชั่น โดยมีจุดเริ่มต้นจากผลงานการ์ดสะสมแบบดิจิทัลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการ์ดสะสมในโลกจริง ทาง Paras เชื่อว่าของสะสมทุกชิ้นในโลกจริงควรได้รับการจัดเก็บและยืนยันความเป็นเจ้าของแบบดิจิทัลในอนาคตด้วย
Paras เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ NEAR และ IPFS/Filecoin ช่วยในเรื่องการตรวจสอบและยืนยันความเป็นเจ้าของในทุกการซื้อ การ Mint งาน นอกจากนี้ Paras ยังเป็นบล็อกเชนที่รองรับการเจริญเติบโตได้สูง พร้อมกับการทำธุรกรรมที่มีราคาถูกและรวดเร็ว เหมาะกับผู้ใช้ทุกคน
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Near
- ค่า Gas Fee : ไม่มี
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : ราคาถูก
- ข้อดี : ผลงานราคาไม่แพง มือใหม่เข้าถึงได้ง่าย
- ข้อเสีย : ใช้งานได้เฉพาะ Near เท่านั้น
- ปริมาณการเทรด : 4 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
objkt
Objkt เป็นตลาดซื้อขาย NFT ที่ใช้งานบนแพลตฟอร์มของ Tezos ที่ใหญ่ที่สุด และใช้งานง่าย มีจุดเด่นตรงที่ ค่าธรรมเนียมราคาถูก ผลงานที่ลงขายราคาไม่สูงมาก เหมาะกับมือใหม่ที่อยากทดลองซื้อและขาย NFT
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Tezos
- ค่า Gas Fee : ไม่มี
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 2.5% ต่อธุรกรรม
- ข้อดี : เพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งานบน Tezos
- ข้อเสีย : ใช้งานได้เฉพาะ Tezos เท่านั้น
- ปริมาณการเทรด : 3.24 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
Axie Marketplace
สำหรับคอเกมไม่ควรพลาดตลาด Axie Marketplace จุดเริ่มต้นที่จะช่วยสร้างรายได้ต่อๆ ไปในอนาคต ตลาดแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเกมชื่อดังอย่าง Axie Infinity ที่ธีมเกมคล้ายกับเกมโปเกมอน การเริ่มต้นเล่นเกมนั้น เราจะต้องเข้ามาทำการซื้อตัวละคร อย่างน้อย 3 ตัว ก่อน แต่ราคาก็ไม่ถูกเช่นกัน ถ้าใครสนใจการซื้อขาย NFT ในรูปแบบของเกม และ Metaverse เราขอแนะนำให้ใช้งานที่ Axie กันได้เลย
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum , Ronin
- ค่า Gas Fee : เมื่อซื้อ NFT
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 5.25% สำหรับผู้ขายในแต่ละการทำธุรกรรม
- ข้อดี : เป็นตลาดใหญ่ใน Metaverse
- ข้อเสีย : มีต้นทุนสูงในการเข้าร่วมเกม , การใช้งานซับซ้อนกว่าที่อื่นๆ
- ปริมาณการเทรด : 20 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
Sandbox Marketplace
ตลาดซื้อ-ขาย NFT Sandbox Marketplace ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในเกม ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของจำพวก เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ พร็อบต่างๆ Sandbox มีข้อดีตรงที่ มีฐานลูกค้ากว่า 2 ล้านรายจากทั่วโลก ที่มีความต้องการซื้อสิ่งของต่างๆ นอกจากนี้แล้วยังสามารถนำไอเทมเหล่านั้นไปขายที่ตลาดอื่นๆ ได้ด้วย เช่น Opensea
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum
- ค่า Gas Fee : เมื่อซื้อ NFT
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 5% สำหรับผู้ขายในแต่ละการทำธุรกรรม
- ข้อดี : มีไอเทมเกมที่น่าสนใจมากมาย , เน้นการใช้งานบนโลก Metaverse
- ข้อเสีย : ตลาดยังเล็ก , ใช้งานได้เฉพาะที่ Sandbox เท่านั้น
- ปริมาณการเทรด : 72,000 ดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
Decentraland Marketplace
ตลาดซื้อขาย NFT สำหรับเกม ที่น่าสนใจอีกที่ก็คือ Decentraland นั่นเอง ตัวเกมนี้เป็นเกม Metaverse ที่ครองตำแหน่งอันดับสองมูลค่าทางการตลาด รองจาก Ape ซึ่งตัว NFT ที่ขายก็มีตั้งแต่พร็อบแต่งตัว เฟอร์นิเจอร์ อาวุธ อุปกรณ์ต่างๆ และที่สำคัญคือแลนด์ หรือที่ดิน ที่ยิ่งนับวันยิ่งมีราคาสูงขึ้น
- Network / เหรียญที่ใช้งาน : Ethereum
- ค่า Gas Fee : เมื่อซื้อ NFT
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม : 2.5% สำหรับผู้ขายในแต่ละการทำธุรกรรม
- ข้อดี : เน้นการซื้อขายสินค้าในโลก Metaverse
- ข้อเสีย : ใช้ได้แค่ใน Decentraland
- ปริมาณการเทรด : 5.2 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ/เดือน
อ้างอิงเนื้อหา
- https://www.business2community.com/nft/best-marketplaces
- https://www.creativebloq.com/features/nft-marketplaces
- https://dappradar.com/nft/marketplaces
บทส่งท้าย
NFT Marketplace หรือตลาดซื้อขาย NFT ในปัจจุบันนั้นมีหลายแห่ง และมีการใช้งานบนเชนต่างๆ เพิ่มขึ้น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนเชนของ Ethereum เท่านั้น ซึ่งก็ส่งผลให้วงการ NFT มีการพัฒนาขึ้น ตอบรับกับผู้ใช้งานมากขึ้น และสามารถนำไปต่อยอดใช้กับวงการอื่นๆ ได้อีก
การเลือกใช้งานตลาดซื้อขาย NFT นั้น เราควรเลือกจากเหตุผลในการซื้อ NFT ของเราเป็นหลัก เช่น การซื้อ NFT เพื่อเก็บสะสม หรือจะซื้อเพื่อเก็งกำไร ถ้าซื้อเพื่อเก็งกำไร เราก็ควรเลือกตลาดที่มีฐานคนใช้งานจำนวนมาก เพื่อเปิดโอกาสให้เราสามารถขายงาน NFT ได้มากขึ้น ถ้าหากว่าเราเลือกที่จะสะสมผลงานอย่างเดียวก็แค่ต้องไปตามดูว่า ศิลปินท่านนั้นขายผลงานบนแพลตฟอร์มไหน แล้วก็ไปตามซื้อก็ได้
สมัครไบแนนซ์ ซื้อเหรียญคริปโตเอาไว้สะสม NFT คลิก
Crypto Summer รวบรวมข้อมูลสำคัญในวงการคริปโต Web3 , NFT , Metaverse