DCA Bitcoin คือ อะไร ลงทุนแบบ DCA ในคริปโต เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด

DCA Bitcoin คือ

DCA Bitcoin คือ การลงทุนด้วยหลักการ Dollar Cost Averaging หรือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้คริปโตในราคาที่ดีที่สุด มือใหม่ที่กำลังหัดเทรดหุ้นหรือซื้อขายเหรียญคริปโตอาจจะเคยได้ยินศัพท์คำนี้กันมาบ้าง ว่าแต่การลงทุนแบบ DCA นั้นมีข้อดีอย่างไร แล้วทำไมการลงทุนแบบนี้ถึงเป็นที่นิยมในหมู่นักเทรด แถมยังเป็นวิธีการที่เหล่าเซียนชอบแนะนำมือใหม่ใช้อยู่บ่อยๆ เราไปทำความรู้จักกับการลงทุนแบบ DCA นี้กันเลย

หลายครั้งที่การซื้อขายเหรียญแบบต้องเฝ้าหน้าจออาจก่อให้เกิดความเครียด ใช้เวลานาน และยังให้ผลกำไรได้ไม่ดีเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม ในการซื้อขายเหรียญยังมีวิธีการแบบอื่น ๆ นอกจากการนั่งจ้องหน้าจอเพื่อทำการซื้อขายแบบ real time เช่นเดียวกับนักลงทุนหลายๆ คน คุณเองอาจต้องการกลยุทธ์การลงทุนที่ให้ผลกำไรน้อยกว่าแต่ใช้เวลาน้อยลง หรือเพียงแค่รูปแบบการลงทุนที่มีความ passive มากขึ้น ทั้งนี้ ในระบบนิเวศของ Binance คุณมีตัวเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝากเหรียญไว้กับกระดานเทรดเพื่อทำกำไร การให้ยืมทรัพย์สินของคุณใน Binance Savings การเข้าร่วม Binance mining pool และวิธีการอื่นๆ อีกมากมาย

สมัครไบแนนซ์ ลงทุนแบบ DCA ในคริปโต

การลงทุนแบบ DCA Bitcoin คือ อะไร

ถ้าคุณต้องการลงทุนในตลาดคริปโต อแยากลงทุนในเหรียญบิทคอยน์ หรือจะเป็นเหรียญอีธีเรียม แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิธีใดคือวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการครอบครองสินทรัพย์แบบระยะยาว ในบทความนี้ เราจะพูดถึงกลยุทธ์การลงทุนที่เรียกว่า DCA หรือ Dollar Cost Averaging ค่าเฉลี่ยต้นทุนดอลลาร์ (หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย”) ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายในการลดความเสี่ยงในการครอบครองสินทรัพย์ และเป็นวิธีที่ดีในการลงทุนในช่วงตลาดหมี Bear Market

Dollar-Cost Average ค่าเฉลี่ยต้นทุนดอลลาร์คืออะไร?

ค่าเฉลี่ยต้นทุนดอลลาร์ (หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย”) เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่มีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนในการซื้อสินทรัพย์ การเข้าสู่ตลาดโดยใช้การถัวเฉลี่ยนี้จะทำให้การลงทุนไม่มีความผันผวนมากเท่ากับการลงทุนซื้อสินทรัพย์โดยใช้เงินก้อน (เช่น การชำระเงินครั้งเดียว) การค่อยๆ ซื้อในช่วงเวลาปกติจะทำให้ราคาเฉลี่ยออกมาดี และในระยะยาวกลยุทธ์ดังกล่าวจะลดผลกระทบด้านลบที่อาจจะเกิดขึ้นกับการเข้าลงทุนผิดจังหวะ มาดูกันว่า DCA ทำงานอย่างไรและทำไมคุณจึงควรพิจารณาใช้กลยุทธ์นี้

ทำไมจึงต้องใช้การลงทุนแบบ DCA Bitcoin

ประโยชน์หลักของการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย คือ ช่วยลดความเสี่ยงในการเดิมพันในเวลาที่ไม่ถูกต้อง จังหวะเวลาของตลาดเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดที่จะคาดเดาเวลาซื้อขายหรือลงทุน บ่อยครั้งแม้ว่าทิศทางของการเทรดจะถูกต้อง แต่เวลาอาจจะผิด ซึ่งทำให้การเทรดทั้งหมดนั้นดูผิดที่ผิดทางไปหมด การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยจึงช่วยลดความเสี่ยงนี้

หากคุณแบ่งการลงทุนออกเป็นส่วนย่อยๆ คุณจะมีโอกาสได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการลงทุนด้วยเงินจำนวนเท่ากันแบบเป็นก้อนใหญ่ก้อนเดียว แม้ว่าการเข้าซื้ออย่างผิดเวลาเป็นเรื่องง่ายอย่างน่าประหลาดใจ แต่มันอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แย่กว่าที่คุณจะคาดคิดได้ ยิ่งไปกว่านั้น การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย จะช่วยให้คุณสามารถขจัดอคติบางอย่างออกจากการตัดสินใจของคุณได้ เมื่อคุณตัดสินใจลงทุนแบบถัวเฉลี่ยแล้ว กลยุทธ์นี้จะตัดสินใจแทนคุณ

แน่นอนว่าการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างสมบูรณ์ แนวคิดนี้เป็นเพียงการทำให้การเข้าสู่ตลาดเป็นไปอย่างราบรื่นเพื่อลดความเสี่ยงของจังหวะเวลาที่ไม่ดี การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยไม่ได้รับประกันว่าการลงทุนจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนแต่ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วย

ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว การกำหนดจังหวะของตลาดเป็นเรื่องยากมาก แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรดรายใหญ่ที่สุดก็ยังยากที่จะอ่านสถานการณ์ของตลาดให้ออกมาอย่างแม่นยำในบางครั้ง ดังนั้น หากคุณได้ลงทุนแบบถัวเฉลี่ยเอาไว้ คุณอาจต้องพิจารณาแผนการขายออกของคุณด้วย และนั่นคือกลยุทธ์การเทรดในการออกจากราคาที่ซื้อเอาไว้

ตอนนี้ หากคุณได้กำหนดราคาเป้าหมาย (หรือช่วงราคา) ไว้ คุณสามารถแบ่งการลงทุนออกเป็นส่วนเท่าๆ กันอีกครั้งแล้วเริ่มขายเมื่อตลาดเข้าใกล้เป้าหมายที่คุณวางไว้ วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะไม่เทขายในเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับระบบการซื้อขายส่วนบุคคลของคุณ

บางคนใช้กลยุทธ์ “ซื้อและถือยาว” ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป้าหมายคือ การไม่ขาย เนื่องจากสินทรัพย์ที่ซื้อนั้นคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป ดูประสิทธิภาพของค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ในศตวรรษที่ผ่านมาด้านล่าง

DCA Bitcoin คือ

ประสิทธิภาพของ Dow Jones Industrial Average (DJIA) ตั้งแต่ปี 1915

ในขณะที่มีภาวะถดถอยในระยะสั้น Dow อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จุดประสงค์ของกลยุทธ์การซื้อและถือยาว คือ การเข้าสู่ตลาดและอยู่ในจุดนั้นนานเพียงพอที่เวลาจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ควรระลึกไว้เสมอว่ากลยุทธ์ประเภทนี้มักมุ่งเน้นไปที่ตลาดหุ้นและอาจใช้ไม่ได้กับตลาดสกุลเงินดิจิทัล โปรดทราบว่าประสิทธิภาพของ Dow เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจในโลกแห่งความเป็นจริง ในขณะที่สินทรัพย์ประเภทอื่นๆ จะทำงานแตกต่างกันมาก

ตัวอย่างการลงทุนแบบ DCA Bitcoin

สมมติว่าเรามีจำนวนเงินคงที่อยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์และเราคิดว่าเราจะเอาเงินนี้มาลงทุนใน Bitcoin ซึ่งเราคิดว่าราคาน่าจะอยู่ในโซนปัจจุบัน และเป็นจุดที่ดีในการสะสมและสร้างตำแหน่งโดยใช้กลยุทธ์ DCA

เราสามารถแบ่งเงิน 10,000 ดอลลาร์ออกเป็น 100 กอง กองละ 100 ดอลลาร์ โดยในแต่ละวันเราจะซื้อ Bitcoin มูลค่า100 ดอลลาร์โดยไม่สนใจว่าได้ bitcoin จำนวนเท่าไหร่ ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถกระจายการความเสี่ยงในการเข้าซื้อได้เป็นระยะเวลาประมาณสามเดือน

ตอนนี้ เรามาดูกันว่าการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยสามารถนำไปใช้กับแผนการที่แตกต่างกันไปได้อย่างไร สมมติว่า Bitcoin เพิ่งเข้าสู่ตลาดหมี และเราไม่คาดคิดว่าแนวโน้มขาขึ้นจะเกิดขึ้นได้อีกครั้งไปอย่างน้อยสองปี แต่เราคาดว่าในที่สุดแล้วราคา bitcoin จะสูงขึ้น และเราต้องการเตรียมตัวล่วงหน้า

เราควรใช้กลยุทธ์เดียวกันหรือไม่? คำตอบคือ “อาจจะไม่ใช่” พอร์ตการลงทุนนี้มีระยะเวลาที่ยาวนานกว่ามาก ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมพร้อมที่จะจัดสรรเงิน 10,000 ดอลลาร์สำหรับกลยุทธ์นี้ไปอีกสองสามปี แล้วเราควรเลือกทางไหน?

เราสามารถแบ่งการลงทุนออกเป็น 100 กอง กองละ 100 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยในครั้งนี้เราจะซื้อ Bitcoin มูลค่า 100 ดอลลาร์เป็นประจำทุกสัปดาห์ ในหนึ่งปีมีประมาณ 52 สัปดาห์ ดังนั้นแผนการทั้งหมดนี้จะใช้เวลาดำเนินการน้อยกว่าสองปีเล็กน้อย

ด้วยวิธีนี้ เราจะสามารถสร้าง long-term position ได้ในขณะที่ยังคงเป็นเทรนด์ขาลง ทำให้เราไม่พลาดรถไฟเมื่อเทรนด์ขาขึ้นกำลังเริ่มขึ้น และเราจะได้ลดความเสี่ยงในการเข้าซื้อในช่วงที่เป็นเทรนด์ขาลงด้วย

แต่ควรคิดไว้เสมอว่ากลยุทธ์นี้อาจมีความเสี่ยง เพราะเราจะเข้าซื้อตั้งแต่ราคาเริ่มลง สำหรับนักลงทุนบางรายอาจเลือกใช้อีกวิธีคือ การรอจนกว่าเทรนด์ขาลงจะสิ้นสุดและอยู่ในช่วงกลับตัวเป็นเทรนด์ขาขึ้นอีกครั้ง จึงค่อยเข้าซื้อในช่วงเวลานั้น หากรอไปก่อน ต้นทุนเฉลี่ย (หรือราคาหุ้น) อาจจะสูงขึ้น แต่ความเสี่ยงในด้านลบก็จะมีน้อยลงตามไปด้วย

สมัครไบแนนซ์ ลงทุนแบบ DCA ในคริปโต

เครื่องมือคํานวณการลงทุน DCA Bitcoin

คุณสามารถหาเครื่องคำนวณการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยสำหรับ Bitcoin ได้ที่ dcabtc.com คุณสามารถระบุจำนวน ระยะเวลา ช่วงเวลา และคิดออกว่ากลยุทธ์ต่างๆ จะดำเนินการอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป คุณจะพบว่าหาก Bitcoin ซึ่งอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาว กลยุทธ์นี้น่าจะทำงานได้ดีทีเดียว

ด้านล่างนี้ คุณสามารถดูประสิทธิภาพการลงทุนของคุณได้ หากคุณซื้อ Bitcoin มูลค่าเพียง 10 ดอลลาร์ทุกสัปดาห์ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา 10 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ดูเหมือนจะไม่มากขนาดนั้นใช่ไหม แต่ในเดือนมกราคม 2018 คุณจะลงทุนทั้งหมด 2,610 ดอลลาร์ และ Bitcoin ของคุณจะมีมูลค่าประมาณ 9,952 ดอลลาร์ ผลตอบแทน 281.31%

วิธีการลงทุน DCA Bitcoin

ประสิทธิภาพการซื้อ Bitcoin 10 ดอลลาร์ทุกสัปดาห์ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ที่มา dcabtc.com

กรณีเทียบกับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย

แม้ว่าการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยอาจเป็นกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้ดี แต่ก็มีข้อที่น่ากังวลเช่นกัน วิธีนี้ใช้ได้ผลดีที่สุดเมื่อตลาดประสบกับความผันผวนครั้งใหญ่ ซึ่งก็สมเหตุผล เนื่องจากกลยุทธ์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนสูงในราคาซื้อขาย

อย่างไรก็ดี กลยุทธ์นี้อาจจะทำให้นักลงทุนสูญเสียกำไรเมื่อตลาดกำลังไปได้ดี เหตุผลก็เพราะว่า หากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ลงทุนไว้ก่อนหน้านี้จะต้องได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าอย่างแน่นอน ส่วนวิธีการลงทุนแบบ DCA ถัวเฉลี่ย อาจส่งผลต่อกำไรในช่วงขาขึ้น ในกรณีนี้ การลงทุนแบบก้อนเดียวอาจให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย

แต่ถึงอย่างนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่ก็ไม่มีเงินจำนวนมากพอที่จะลงทุนในครั้งเดียว แต่พวกเขาสามารถลงทุนจำนวนเล็กน้อยในระยะยาวได้ การลงทุนแบบ DCA ในคริปโต หรือใน Bitcoin ก็ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสม

ข้อดีและข้อเสียในการลงทุนแบบ DCA กับบิทคอยน์

ข้อดี

1.ลดความเสี่ยงในการติดดอย หรือการซื้อที่ราคาแพง

การ DCA จะทำให้เราค่อยๆ เข้าซื้อคริปโตได้ทุกราคาอย่างมีวินัย ในปริมาณเล็กน้อย เพื่อให้ถัวเฉลี่ยแล้วออกมาเป็นราคาที่ดีที่สุด ดีกว่าการที่เราลงทุนครั้งเดียวในปริมาณมากแต่จุดที่เข้าซื้อคือ ราคาสูงสุดของรอบนั้นๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดการขาดทุนหนัก และอาจทำให้เราเครียดได้ เพราะราคาของคริปโต บิทคอยน์ สกุลเงินดิจิทัลต่างๆ สามารถมีมูลค่าที่ลดลงไปได้ถึง 50% หรือมากกว่านั้น

2.ไม่จำเป็นต้องลงทุนโดยใช้เงินจำนวนมาก

เราสามารถลงทุนด้วยวิธีการใช้เงินจำนวนน้อยๆ เท่าที่เราไหว แต่ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็สามารถสร้างผลตอบแทนแบบยั่งยืนให้เราได้เช่นกัน ทำให้เราไม่ต้องรู้สึกเครียดหรืออึดอัดใจในการจะแบ่งเงินเก็บของเราออกมาเป็นก้อนใหญ่เพื่อนำไปใช้ในการลงทุน

3.ให้เวลาคุณได้เข้าใจตัวบิทคอยน์

ทุกคนที่สามารถถือครองบิทคอยน์ได้ยาวเกิน 3 ปี จะได้รับผลกำไรมากกว่าตอนที่ลงทุนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดีคนส่วนใหญ่มักจะเข้าซื้อและหวังผลกำไรในระยะสั้น จึงไม่อาจทำกำไรได้จริง เพราะบิทคอยน์มีความผันผวนสูง และพวกเค้าเหล่านั้นอาจไม่เข้าใจในตัวบิทคอยน์ดีเพียงพอ ดังนั้น การลงทุนแบบ DCA ในบิทคอยน์จึงช่วยให้คุณมีเวลาได้ศึกษาและทำความเข้าใจในเชิงลึกก่อนที่จะทำการแบ่งเงินจำนวนมากมาลงทุน ผลลัพธ์ของการใช้กลยุทธ์นี้คือ ตอนที่คุณยังรู้จักบิทคอยน์ไม่มากนักคุณก็ยังได้ทำการหย่อนเงินลงทุนลงไปบ้าง เมื่อคุณได้ทำการศึกษาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว เงินลงทุนของคุณก็มากขึ้นตามไปด้วย ช่วยประหยัดเวลาได้อีก

4.ได้รับโอกาสในการเข้าซื้อในช่วงที่ราคาปรับลดลง

การที่เราค่อยๆ แบ่งเงินไปลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ใช้เงินจำนวนมากลงไปในทีเดียว ทำให้เรามีเงินสดเพียงพอที่จะเข้าซื้อเหรียญต่างๆ ในช่วงที่ราคาปรับลดลงมามากๆ  ตัวอย่างเช่น ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2018 ราคาบิทคอยน์ลดลงมาเหลือเพียง 6,000 ดอลล่าร์สหรัฐ และไม่นานราคาบิทคอยน์ก็ร่วงลงไปอีกจนเหลือเพียง 3,500 ดอลล่าร์สหรัฐ เท่านั้น ผู้ซื้อที่ยังคงมีเงินสดเหลือติดตัวก็สามารถเข้าซื้อที่จังหวะนี้ได้ และหลังจากนั้นเพียง 3 เดือน ราคาบิทคอยน์ก็ทะยานขึ้นไปอยู่ที่ 14,000 ดอลล่าร์สหรัฐ

5. ช่วยลดความเครียด

การลงทุนแล้วติดดอย หรือราคาปัจจุบันต่ำกว่าราคาที่เราเข้าซื้อเป็นอย่างมากนั้นส่งผลเสียกับสุขภาพจิตของคุณโดยตรง และนี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในตลาดคริปโตที่มีความผันผวนสูง เช่นเดียวกับความผันผวนในตลาดหุ้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้

แต่ด้วยวิธี DCA คุณไม่ต้องตกใจไปกับการลงทุนเงินจำนวนมากแล้วติดดอย และยังต้องกังวลเรื่องราคาที่ผันผวน การ DCA จะทำให้เงินลงทุนขอคุณค่อยๆ เพิ่มทีละนิดในขณะที่คุณก็ได้ทำความเข้าใจกับความผันผวนที่เป็นธรรมชาติของบิทคอยน์ไปด้วยเรื่อยๆ

ข้อเสีย

1.เสียโอกาสในการเข้าซื้อที่จุดราคาต่ำสุด

กลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA ช่วยป้องกันคุณไม่ให้ลงทุนซื้อคริปโตโดยใช้เงินจำนวนมากในราคาที่สูงสุด ในทางกลับกันมันก็ทำให้คุณไม่สามารถเข้าซื้อในราคาที่ถูกที่สุดได้ด้วยเช่นกัน ถ้าคุณใช้วิธีลงทุนแบบ DCA มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแบ่งเงินมาลงทุนในจุดที่ต่ำที่สุดที่คุณต้องการ ในการซื้อแต่ละครั้งจะได้ในราคาที่สูงกว่าเสมอ ถ้าการลงทุนตามรูปแบบอย่างถูกวิธีจริงๆ

2.ใช้เวลายาวนานกว่าจะเห็นผล

หลักการการลงทุนแบบ DCA คือการลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยๆ อย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้มันใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าที่เราจะลงทุนได้ครบตามแผน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนของคุณ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาประมาณ 3-12 เดือนขึ้นไป

3.ไม่ค่อยได้ผลกับช่วงตลาดกระทิง หรือตลาดขาขึ้น

ถ้าบิทคอยน์กำลังอยู่ในช่วงตลาดขาขึ้นแรง วิธีการที่ดีคือการลงทุนซื้อครั้งเดียวไปเลยจะดีกว่า เพราะการลงทุนแบบ DCA ในครั้งถัดไป คุณจะได้ราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จุดนี้ถือว่าเป็นข้อเสียหลักในการลงทุนแบบ DCA เลยทีเดียว อย่างไรก็ดี ถ้าคิดในอีกแง่ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าตลาดบิทคอยน์กำลังอยู่ในช่วง Bull Cycle หรือเป็นช่วงขาขึ้น ถ้าหากว่าราคาบิทคอยน์ขึ้นไปแตะจุดสูง แล้วก็กลับตัวลงล่ะ จะทำอย่างไร

ที่มา

https://academy.binance.com/

https://dcabtc.com/

บทสรุป การลงทุนแบบ DCA มีประโยชน์อย่างไร

การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยเป็นกลยุทธ์ที่เหมือนเป็นของรางวัลที่ใช้แลกเปลี่ยนสำหรับการเข้าสู่ตลาดคริปโต เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนต่อการลงทุนให้น้อยที่สุด ซึ่งเน้นการแบ่งการลงทุนออกเป็นกองเล็ก ๆ และซื้อเป็นระยะ ๆ

แม้ว่าการกำหนดจังหวะตลาดจะเป็นเรื่องยาก แต่การลงทุนด้วยกลยุทธ์นี้จะช่วยให้ผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือไม่ต้องการติดตามสถานการณ์ของตลาดซื้อขายอย่างจริงจังก็ยังสามารถลงทุนได้

อย่างไรก็ตาม การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยก็อาจทำให้นักลงทุนบางส่วนสูญเสียกำไรในช่วงตลาดกระทิง หรือ Bullish อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วว่าการสูญเสียกำไรบ้างบางส่วนไม่ได้ถือว่าเป็นจุดจบของโลก ดังนั้น การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยยังคงเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่อำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนมือใหม่หลายคนและสำหรับมือใหม่หัดเทรด การลงทุนแบบ DCA ไม่ว่าจะในตลาดคริปโตหรือในสินทรัพย์อื่นๆ นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงต่อราคาที่ผันผวนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตลาดขาลงแล้ว ยังเป็นการช่วยฝึกวินัยในการลงทุน และสร้างความมั่นใจให้ผู้เทรดได้ค่อยๆ เรียนรู้ตลาด หากเราไม่ได้มีความรู้ด้านการลงทุนมากพอ การลงทุนด้วยเงินก้อนเดียวอาจจะเป็นการเดิมพันที่สูงเกินไปในภาวะที่ตลาดมีความผันผวนอยู่ตอนนี้ ทั้งนี้ การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนทุกท่านจึงควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจทุกครั้งก่อนการลงทุน

อัพเดทสาระดีๆ ในแวดวงคริปโต Web3 , NFT , Metaverse ไปด้วยกันกับเรา Crypto Summer